มวยไทย ศิลปะการต่อสู้

Ads Here

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ยุคคะมะกุระ ความเฟื่องฟูของซะมุไร


 ยุคคะมะกุระ ความเฟื่องฟูของซะมุไร

เดิมทีซะมุไรเป็นเพียงนักรบรับจ้างให้กับองค์พระจักรพรรดิและกลุ่มชนชั้นสูง (คุเงะเท่านั้น แต่ต่อมาอำนาจของพวกเขาได้ก่อตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ จนในที่สุดพวกเขาสามารถยึดอำนาจของผู้ปกครองชั้นสูงไว้ได้ และก่อร่างกลุ่มคณะที่ปกครองโดยซะมุไรขึ้นมาแทน พวกเขาได้สร้างลำดับขั้นการบังคับบัญชาที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ โทเรียว หรือหัวหน้าของพวกเขาขึ้นมา เพื่อทำการสะสมกำลังคนกับทรัพยากรต่างๆ และผูกพันธมิตรกับกลุ่มอื่นๆ ผู้ที่เป็นโทเรียวจะมีระยะห่างเฉพาะในความสัมพันธ์ที่มีต่อองค์จักรพรรดิ และต่อสมาชิกส่วนน้อยของหนึ่งในสามตระกูลมีระดับ (ตระกูลฟุจิวะระ ตระกูลมินะโมะโตะ และตระกูลไทระในด้านระเบียบการปกครอง ตามหลักการแล้ว โทเรียวเหล่านี้จะถูกส่งไปรับตำแหน่งเป็นผู้ปกครองหรือผู้พิพากษาศาลแขวงตามจังหวัดต่างๆ เป็นเวลาสี่ปี แต่ในความเป็นจริง เมื่อพวกเขาหมดสมัยปกครองแล้ว ก็มักปฏิเสธที่จะกลับมาสู่เมืองหลวงอีกครั้ง และยังได้นำทายาทของตนมาสืบต่อตำแหน่งแทน เพื่อให้การทำงานต่อเนื่องไป และให้เป็นผู้นำทัพออกปราบกบฏทั่วทั้งญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงตอนกลางและตอนปลายของยุคเฮอัง
           ต่อมา เมื่อกำลังทหารและอำนาจทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น กลุ่มซะมุไรผู้ปกครองก็กลายเป็นศูนย์กลางอำนาจใหม่ทางการเมือง การเข้าไปมีส่วนร่วมในกบฏโฮเง็ง ช่วงยุคเฮอังตอนปลายก็ยิ่งทำให้อำนาจของพวกเขาแข็งแกร่งมากกว่าเดิมอีก จนในที่สุด ในช่วงกบฏเฮจิ ปี ค.ศ. 1160 พวกเขาก็สามารถยุยงตระกูลมินะโมะโตะ และตระกูลไทระให้ปะทะกันเองได้ หลังจากชัยชนะปรากฏออกมาอย่างเด่นชัดต่อกลุ่มซะมุไร แม่ทัพไทระ โนะ คิโยะโมะริ ก็กลายเป็นผู้กุมอำนาจสูงสุดในราชสำนัก ซึ่งถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ชนชั้นนักรบได้ขึ้นครองตำแหน่งชั้นสูงของญี่ปุ่น และสุดท้าย กลุ่มซะมุไรก็เข้าไปควบคุมรัฐบาลได้อย่างเต็มตัว เกิดเป็นคณะรัฐบาลของญี่ปุ่นชุดแรกที่ถูกครอบงำโดยซะมุไร ส่วนองค์จักรพรรดิก็ถูกลดทอนอำนาจให้มีสถานะเป็นเพียงประมุขของประเทศเท่านั้น แต่ไม่สามารถใช้อำนาจบริหารบ้านเมืองได้อย่างแต่ก่อน อย่างไรก็ตาม ตระกูลไทระก็ยังคงขับเคี่ยวกันกับตระกูลมินะโมะโตะอยู่เหมือนเดิม โดยแทนที่ตระกูลไทระจะใช้วิธีแผ่ขยายอำนาจโดยการเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทหารของตน พวกเขากลับใช้วิธีส่งผู้หญิงในตระกูลเข้าไปอภิเษกกับองค์จักรพรรดิ และพยายามเข้าไปใช้อำนาจผ่านทางจักรพรรดิเพื่อประโยชน์ของตระกูล

ตระกูลไทระและตระกูลมินะโมะโตะเข้าปะทะกันอีกครั้งในปี ค.ศ. 1180 เป็นการเริ่มต้นสงครามเก็มเปอย่างเป็นทางการ ซึ่งไปยุติลงในปี ค.ศ. 1185 หลังสงครามสิ้นสุดลง มินะโมะโตะ โนะ โยะริโตะโมะ ผู้ชนะในสงครามครั้งนั้น ได้ทำให้กลุ่มซะมุไรมีความเหนือกว่ากลุ่มชนชั้นสูงมากขึ้นไปอีก โดยในปี ค.ศ. 1190 ตัวเขาได้ไปเยือนเมืองเคียวโตะ และใน ค.ศ. 1192 เขาก็กลายเป็นโชกุนในที่สุด และเพื่อเป็นการแทนที่อำนาจซึ่งมาจากเมืองเคียวโตะ ตัวเขาจึงได้จัดตั้งคณะการปกครองตามระบอบโชกุนในเมืองคะมะกุระขึ้นมา เรียกว่า รัฐบาลโชกุนคะมะกุระ สาเหตุที่เลือกก่อตั้งที่เมืองคะมะกุระเป็นเพราะว่า เมืองนี้อยู่ใกล้กับแหล่งฐานอำนาจของตัวเขาเอง
หลังจากช่วงเวลาดังกล่าว กลุ่มซะมุไรผู้ทรงอำนาจก็กลายเป็นนักรบชนชั้นนำ (บุเกะผู้ซึ่งมีเพียงชื่อเท่านั้นที่ดำรงอยู่ภายใต้สำนักกลุ่มผู้ปกครองชนชั้นสูง หรือราชสำนัก เมื่อซะมุไรเริ่มเข้าไปเป็นเจ้าของเครื่องจรรโลงใจต่างๆ ของกลุ่มชนชั้นสูง อย่างศิลปะลายมือ บทกวี และเพลง ในทางกลับกัน สำนักผู้ปกครองชนชั้นสูงบางสำนักก็เข้าไปเป็นเจ้าของธรรมเนียมต่างๆ ของซะมุไรบ้าง แต่ถึงแม้ว่าจักรพรรดิหลายๆ พระองค์จะสร้างแผนการอันชั่วร้ายและกฎระยะสั้นต่างๆ ออกมาเพื่อลดบทบาทของกลุ่มซะมุไร อำนาจที่แท้จริงในขณะนั้นก็ยังอยู่ในกำมือของโชกุนและซะมุไรอยู่ดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น